อยู่อย่างไรให้ทุกข์น้อยที่สุด??
ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าคนส่วนใหญ่ปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำการดำเนินชีวิต จนขาดความยับยั้งชั่งใจในหลาย ๆ เรื่อง ในแต่ละวันเมื่อใดก็ตามที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เกิดการกระทบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่ปรารถนา ไม่น่าพอใจ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม อารมณ์ความขุ่นมัวจะเกิดขึ้นทันที
หากรู้ตัวเร็ว และหยุดมันได้ก็เป็นเรื่องดี แต่ส่วนใหญ่จะยังคิดปรุงแต่งจินตนาการต่อเนื่อง เรียกได้ว่า ยังมีความเพลินในอารมณ์ขุ่นมัวนั้นโดยไม่รู้ตัว นั่นคือ เรากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ หากเรายังมีอาการเช่นนี้ อารมณ์อย่างนี้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ในทุก ๆ วัน ความเคยชินจะเกิดขึ้นกับเรา จนกลายเป็นผลเสียกับตัวเอง และคนรอบข้าง
ความจริงของชีวิต คือ เมื่อทุกสิ่งบนโลกนี้มีการเกิด ก็ต้องมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เมื่อเสื่อมเรื่อย ๆ ก็ต้องมีดับ กลายเป็นสิ่งที่มีขึ้นเพียงชั่วคราว ไม่ยั่งยืน ไม่ถาวร ทุกสิ่งที่ปรากฏบนโลกนี้ ต่อให้คงอยู่ร้อยปี หมื่นปี แสนปี หรือล้านปี ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งชั่วคราวทั้งสิ้น ทุกสิ่งต้องมีวันดับไป
เหตุดังกล่าว ทำให้ทุกชีวิตบนโลกต้องพบกับความสมหวัง ผิดหวัง ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ที่พอใจ การปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจิตใจจนกลายเป็นความยึดติด ว่าสิ่งนี้เป็นเรา สิ่งนี้เป็นของเรา ชีวิตจะหาความสุขได้ยาก จะไม่เข้าใจสุขที่แท้จริง
ในทุก ๆ วันล้วนมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากระทบกับเราเสมอ ตัวอย่างเช่น เช้ามา ก็เจอกับคำ นินทา วาจาเสียดแทง เกิดการกระทบขึ้น คือ หูได้ยิน ตาได้เห็น นำความทุกข์เข้ามาในจิตใจ อีกสักพักในเวลาต่อมา ได้รับคำสรรเสริญเยินยอ เรายิ้ม เราปลื้ม เราสุข นี่ไง..คือความไม่แน่นอนของชีวิต
ทุกข์ชั่วคราว สุขชั่วคราว ไม่มีใครสุขในอารมณ์นั้นได้ตลอดทุกวินาที แม้แต่ในความเป็นเพื่อนสนิท วันนี้ยังรักกันดี พรุ่งนี้อาจกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันก็ได้ แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข?? หากได้ทำความเข้าใจในเนื้อหาที่กล่าวมาแล้ว จะต้องเปลี่ยนคำถามว่า แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้ทุกข์น้อยที่สุด??
คำตอบคือ.. การทำความเข้าใจในธรรมชาติของการเกิด - การดับของทุกสรรพสิ่งบนโลกตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ประกอบกับการฝึกสมาธิโดยไม่เคร่งเครียด ไม่เกร็ง พอดี ๆ "เปรียบเหมือนการจับนกด้วยมือ บีบแรงไป นกตาย จับหลวมไป นกหลุดมือ" ด้วยการกำหนดจิตมาอยู่ที่ลมหายใจอย่างสงบ
เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ว่า หายใจเข้ายาว
เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ว่า หายใจออกยาว
เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ว่า หายใจเข้าสั้น
เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ว่า หายใจออกสั้น
รู้เพียงลมที่ไหลเข้า ไหลออก กำหนดสมาธิ เพียงแค่ครั้งละ 10 วินาที // 30 วินาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น 5 นาที หรือ 10 นาที นานขึ้นตามกำลังของแต่ละคน ซึ่งสามารถทำได้ทุกอิริยาบถ ทุกที่ ทุกเวลา หากเข้าใจในธรรมชาติของการเกิด - การดับ ซึ่งเป็นความไม่แน่นอนของชีวิต ประกอบกับการฝึกสมาธิแล้ว จะรู้ว่า 2 สิ่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นพื้นฐานของการเริ่มต้นเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงสนับสนุนให้เราเป็นผู้มีสติ เห็นการกระทำของตัวเองได้ชัดเจนอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
การฝึกให้มีสติอยู่กับตัวเอง มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการงานเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ขับรถ ฯลฯ ก็ให้มีสติอยู่กับสิ่งที่ทำในขณะนั้น แล้วจิตใจจะไม่ไปดึงสิ่งอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาแทรก มาปรุงแต่งให้เราหลุดออกนอกกรอบงานนั้น ๆ
ผลที่ได้รับ คือ ขยะในสมองถูกกำจัด แล้วจิตใจของเราจะค่อย ๆ สะอาดขึ้น เพราะมีพื้นที่ว่างเพื่อใช้ในการทำงานนั้น ๆ ความเป็นอกุศล ฟุ้งซ่าน เคียดแค้น ชิงชัง น้อยเนื้อต่ำใจในอดีต และความวิตก กังวลในอนาคตจะเบาบางลง ส่งผลให้การกระทำในปัจจุบันค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีปัญญาในการแก้ปัญหา และสำเร็จลุล่วงไปตามเหตุปัจจัยในวิธีการของแต่ละคน
ที่กล่าวมา ดูเหมือนจะง่าย "ใช่สิ.. ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่รู้หรอก" .... บลา ๆ … ประโยคเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกอย่างที่มนุษย์ไม่คุ้นเคย จะเกิดความกลัว และดูเป็นเรื่องยาก เพียงแค่คิดว่ายาก ก็ผลักไส ไม่ทำ และจะสร้างเงื่อนไขพร้อมเหตุผลในการปฏิเสธ
อย่าลืมว่า.. ไม่มีใครอ่านหนังสือได้ เขียนหนังสือเป็นตั้งแต่เกิด ทุกคนก็ต้องเริ่มฝึก ก. ข. ฝึก A. B. C. ด้วยกันทุกคน แต่ผู้ที่ไม่เริ่ม ไม่ฝึก แล้วนั่งบ่น อมทุกข์ มองว่าตนนั้น ทุกข์อยู่คนเดียว หากคิดแบบนี้ ชีวิตก็ต้องจมอยู่กับความทุกข์อย่างสาหัส ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ทุกชีวิตบนโลกล้วนมีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เป็นความทุกข์ที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
แต่ถ้าหากเข้าใจ และค่อย ๆ เริ่มฝึกฝน คน ๆ นั้นจะไม่เป็นผู้ร้อนรนกับปัญหาที่มากระทบ จะเป็นผู้ที่ขจัดทุกข์ออกจากใจได้เร็วไว และใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์บนโลกได้อย่างไม่ระทม
ขอขอบคุณสถานที่สวย ๆ จากร้าน Memory House Cafe HuaHin
ร้านกาแฟ Craft Cafe ในทุ่งดอกหญ้า ริมอ่างเก็บน้ำเขาเต่า หัวหิน
กาแฟถูกปาก ขนมรสชาติอร่อย บริการให้เต็มร้อย
คาปูชิโน่เย็น ชานมไข่มุก ราสเบอร์รี่ชีสเค้กอร่อยมากมาย ไอศกรีมสำหรับเด็ก ๆ ก็มีนะคะ ต้องขออภัยคุณผู้อ่านที่ไม่มีภาพให้ชวนหิว เพราะหลังจากจ่ายตังค์ ก็พุ่งตัวไปตากแดด เก็บภาพกันแล้วค่ะ กลับมาที่โต๊ะอีกที จับช้อนฟาดเรียบ ขาดสติกันทุกคน😅😅😅
Memory House Cafe HuaHin
เปิดทำการทุกวัน : 10.00 - 19.00 น.
โทร : 095 663 - 2901
พิกัด 🏡 👉 Memory House Cafe HuaHin
ติดตามผลงาน หรือทักทายกันได้ที่
Blog : 👉 คุณนายหมู กูรูบางเรื่อง
Instagram 👉 คุณนายหมู กูรูบางเรื่อง
Facebook 👉 rose napassorn
Line ID : mooyokosung >> http://line.me/ti/p/RUAB56bvmw
E-mail : napassorn.cpd@gmail.com
————————
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น