เค้กแครอท ทำง่าย ขายคล่อง

ห่างหายเมนูของหวานคำโตไปพักนึงแล้ว วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี ลงมือทำซะทีกับเค้กแครอท หรือเขียนให้ถูกต้องตามพจนานุกรมฯ คือ เค้กแคร์รอต นั่นเอง เป็นเค้กที่อุดมไปด้วยผักและถั่วชนิดต่าง ๆ หอมเย้ายวนด้วยกลิ่นเครื่องเทศที่เป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นเค้กที่ได้รับความนิยมในแถบยุโรป และอเมริกามาอย่างยาวนาน แต่เมืองไทยดูจะเงียบ ๆ กับเค้กชนิดนี้ ทั้ง ๆ ที่ทำง่ายแสนง่าย สูตรนี้ คุณนายหมูตั้งใจนำมาแบ่งปันค่ะ เพราะเห็นว่าใกล้จะถึงเทศกาลคริสต์มาส กับปีใหม่แล้ว อยากทำแจกหรือทำขาย รีบตามมาฝึกมือกันเล้ย ^-^



ส่วนผสมเนื้อเค้ก  (ของทั้งหมดควรเป็นอุณหภูมิห้อง)

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์  150  กรัม

  2. ไข่ไก่เบอร์ 1 จำนวน  2  ฟอง

  3. แคร์รอตขูดฝอย (บีบน้ำออกแล้ว) 180 - 200  กรัม

  4. น้ำตาลทราย  80  กรัม

  5. น้ำมันรำข้าว หรือคาโนลา  1/2  ถ้วยตวง

  6. ผงอบเชย (ชินนามอน)  1  ช้อนชา

  7. ผงออลสไปซ์  1/2  ช้อนชา ** ความชอบส่วนตัว หมูใส่แบบพูน ๆ ช้อนเลยค่ะ **

  8. ผงฟู 1  ช้อนชา

  9. เบคกิ้งโซดา  1/2  ช้อนชา

  10. เกลือป่น  1/2  ช้อนชา

  11. กลิ่นวนิลา  1/2  ช้อนชา

  12. วอลนัท หรืออัลมอนด์  80 - 100  กรัม  


ส่วนผสมไอซิงเคลือบหน้า (icing glaze)

  1. น้ำตาลไอซิง  150  กรัม

  2. น้ำมะนาว  1 + 1/2  ช้อนโต๊ะ

ปริมาณนี้ ปรับลด - เพิ่มได้ตามชอบ


*** อุณหภูมิในการอบ 170 องศา ไฟบน - ล่าง เปิดพัดลม ใช้เวลาประมาณ 20 - 25 นาที ***



วิธีทำ
  1. อบวอลนัท ที่อุณหภูมิ 150 องศา ประมาณ 10 นาที แล้ววางพักไว้ให้เย็น

  2. นำวอลนัทมาหั่นหยาบ วางพักไว้



  1. ร่อนของแห้งรวมกัน ด้วยการนำแป้งสาลีอเนกประสงค์ + ผงฟู + เบคกิ้งโซดา + เกลือป่น + ผงอบเชย + ผงออลสไปซ์ ร่อนทั้งหมดให้เข้ากัน วางพักไว้

  2. นำน้ำมัน + น้ำตาลทราย ลงชามผสม ตีให้เข้ากัน


เนื้อที่ได้หลังจากตีครบ 3 รอบแล้ว

  1. ใส่แป้งสลับกับไข่โดยให้การตีจบที่การใส่แป้ง สูตรนี้คือ ใส่แป้ง 3 รอบ ใส่ไข่ 2 รอบ (ไข่มี 2 ฟอง รอบละ 1 ฟอง) ตามขั้นตอน ดังนี้


รอบที่ 1  ใส่แป้งลงไป ตีให้เข้ากัน

              ใส่ไข่ 1 ฟอง ตีให้เข้ากัน


รอบที่ 2  ใส่แป้งลงไป ตีให้เข้ากัน

               ใส่ไข่ 1 ฟอง + กลิ่นวนิลาตีให้เข้ากัน


รอบที่ 3  ใส่แป้งที่เหลือทั้งหมด ตีให้เข้ากัน


  1. ใช้ไม้พาย หรือช้อน ปาดขอบชามกับก้นชามผสมให้เข้ากัน




  1. ใส่แคร์รอต + วอลนัท ผสมให้เข้ากัน



  1. นำใส่พิมพ์ตามสะดวก จะเป็นถาดพิมพ์สี่เหลี่ยม วงกลม หรือถ้วยฟอยล์ก็ได้ โดยใส่เพียง 1/2  ของพิมพ์ หรือ 3/4 ของพิมพ์ เพื่อเหลือพื้นทีให้ขนมได้ขึ้นฟู

  2. นำเข้าอบอุณหภูมิ 170 องศา ไฟบน - ล่าง เปิดพัดลม ใช้เวลาประมาณ 20 - 25 นาที ขึ้นอยู่กับเตาแต่ละบ้าน





  1. ทดสอบความสุกของเนื้อเค้กด้วยการใช้ไม้เสียบลูกชิ้นหรือไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเนื้อเค้ก ถ้าไม่มีเค้กติดมาแสดงว่าสุกแล้ว




  1. วางพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยทำไอซิงเคลือบ


วิธีทำไอซิงเคลือบหน้า (icing glaze)



  1. นำไอซิงผสมกับน้ำมะนาว ค่อย ๆ ใส่น้ำมะนาวนะคะ อย่าให้เหลวมาก เดี๋ยวจะไม่เกาะตัวกับเค้ก ** ขั้นตอนนี้ชิมตามชอบได้เลย ของหมูจะเน้นเปรี้ยวนำ จึงเพิ่มน้ำมะนาวไปอีก **

  2. นำมาปาดเคลือบที่ด้านบนของตัวเค้ก หรือจะนำเค้กออกจากพิมพ์ วางบนตะแกรง แล้วค่อยเคลือบหน้าเค้กก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ไหลเลอะเทอะ เมื่อเซตตัวแล้วค่อยนำกลับไปใส่ในพิมพ์เดิม แล้วนำไปแช่เย็น


 



เสร็จล้าวววววว ^-^ เค้กแคร์รอต นำออกจากตู้เย็นก็อร่อยได้เลย กับรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ผสานกับเนื้อสัมผัสของเค้กนุ่ม ๆ ปนเนื้อแคร์รอตที่แทรกทุกอณู กลิ่นเครื่องเทศหอมเย็นขึ้นจมูกชื่นใจ เมื่อเคี้ยวไปจะได้ความมันของวอลนัทแสนอร่อย ตามด้วยการจิบเครื่องดื่มชาอุ่น ๆ หรือกาแฟร้อน - เย็น ก็ฟินหลายตลบเลยล่ะ



จะเห็นได้ว่า เค้กแครอท หรือเค้กแคร์รอต เป็นขนมที่ทำง่าย แค่มีตะกร้อมือกับการตวงส่วนผสมที่ถูกต้องก็ทำได้แล้ว แต่ถ้าจะทำเยอะ ๆ หรือไม่อยากปวดแขน ไม่มั่นใจในน้ำหนักมือของตัวเอง ก็ควรใช้ เครื่องตีไฟฟ้าแบบมือถือ ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยไฟไม่ดูดนะคะ และที่สำคัญ เวลาตวงส่วนผสม อย่าใช้ช้อนกาแฟ หรือช้อนกินข้าวนะ ควรใช้ ช้อนตวง ถ้วยตวง ให้ถูกต้อง สัดส่วนจะได้ไม่เพี้ยนค่ะ



อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2020 แล้วนะคะ ลองไปทำกินกันในครอบครัว หรือแจกเป็นของขวัญที่แสนจะภูมิใจได้หน้าบานขึ้นอีกมากมาย ยิ่งทำขายนะ บอกเลย.. ว่าคุณจะได้ลูกค้าที่เป็นสายเค้กแคร์รอตตัวจริงเพิ่มขึ้นแน่นอน แบ่งปันสูตรเสร็จแล้ว คุณนายหมูขอไปแฮปปี้ดี๊ด๊ากับของหวานคำโตก่อนค่ะ ขอขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ และทุกสายตาที่เข้ามาอ่านนะคะ❤


ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นผลงานของผู้เขียน

ติดตามผลงาน หรือทักทายกันได้ที่

Blog : 👉 คุณนายหมู กูรูบางเรื่อง

Instagram 👉 khunnaimoo_gurubangrueng

Facebook 👉 rose napassorn

Line ID : mooyokosung >> http://line.me/ti/p/RUAB56bvmw

E-mail  : napassorn.cpd@gmail.com

————————


ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เตทีเฮ้าส์ The' Tea House หัวหิน

Day 1 🍂 ทริปเที่ยวเชียงใหม่ ขับรถไปเอง 5 วัน 4 คืน

เพรทเซล อานตี้แอนส์ ทำเองได้ที่บ้าน