แกงส้มผักบุ้งกุ้งสด
จริงมั้ย??? ที่ใครหลายคนบอกว่า “ทำแกงส้มให้อร่อยนั้นแสนยาก” ส่วนตัวหมูแล้ว ตอบเลยว่า “ไม่ได้ยากเกินความตั้งใจค่ะ” เพราะแกงส้มมีลักษณะคล้ายแกงเผ็ด แต่ไม่ใส่กะทิ น้ำมัน หรือเครื่องเทศ จะต้องปรุงให้ได้ 3 รส คือ เปรี้ยวนำจากมะขามเปียก ตามด้วยรสเค็ม และหวานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ส่วนตัวหมู ชอบเพิ่มความเผ็ดเข้าไปอีกค่ะ)
อยากบอกว่า สมัยเป็นเด็ก “แกงส้ม” เป็นแกงที่หมูเกลียดมากเลยนะ ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงเกลียด หรืออาจเป็นเพราะเจอแต่เนื้อปลากับผัก ก็เลยไม่ชอบค่ะ แต่เมื่อก้าวล่วงมาวัยนี้แล้ว กลับอยากกินขึ้นมาซะงั้นแหละ โดยเฉพาะผักบุ้งอย่างเดียวนะ ไม่เอาผักรวม เพราะขี้เกียจหั่นเยอะ แฮร่ ๆ ^-^ เป็นผู้หญิงชอบกินผักบุ้ง ตาจะได้หวานเหมือนที่คนโบราณกล่าวไว้ไง ไอ้ครั้นจะซื้อเค้ากิน มันก็ได้ผักบุ้งแสนน้อยนิด กินไม่สะใจเลยค่ะ บางเจ้าก็หวานเจี๊ยบ บางเจ้าก็เค็มโดด เอาเป็นว่า ถ้าเรื่องเยอะแบบหมู ก็ต้องเหนื่อยทำเองล่ะสิ มาค่ะ มาดูกัน แล้วจะบอกว่า วิธีการทำแกงส้มผักบุ้งกุ้งสดในแบบฉบับของหมู ไม่มีอะไรยากซับซ้อนเลยค่ะ
- น้ำพริกแกงส้ม
ประกอบด้วย
❖
พริกแห้ง
ตามหลักแล้ว ควรใช้พริกแห้งทั้งเม็ดใหญ่ และเม็ดเล็กค่ะ พริกแห้งเม็ดใหญ่จะไม่เผ็ดมาก
แต่ให้ความหอม และสีสวย โดยเฉพาะ “พริกแแห้งบางช้าง” ถ้าหาซื้อมาใช้ได้จะดีมากเลยค่ะ
ส่วนพริกแห้งเม็ดเล็กจะให้ความหอมน้อยกว่าเม็ดใหญ่
แต่ช่วยเพิ่มความเผ็ดได้ดีค่ะ (จากภาพ
วันนี้หมูไม่มีพริกแห้งเม็ดใหญ่นะคะ)
❖
หอมแดง
หมูเลือกใช้หอมแดงแบบไทย จะให้กลิ่นหอมที่เหมาะสมกับความเป็นอาหารไทยเลยค่ะ
แต่ถ้าจะใช้หอมแขก (หอมสีแดงหัวใหญ่) ก็ใช้ได้ค่ะ
ขึ้นอยู่กับความสะดวกเลยนะคะ
❖
กระชาย
ช่วยดับกลิ่นคาว และยังให้กลิ่นหอม ควรเลือกแบบเป็นรากยาวที่ไม่ช้ำนะคะ
❖ กะปิ จะเป็นกะปิอะไรก็ได้ ตามกลิ่นที่ชอบเลยค่ะ (ลืมตักกะปิมาเข้ากล้องด้วย)
- ผัก เนื้อสัตว์ และส่วนผสมอื่น ๆ ตามชอบ
❖
ผักบุ้ง
หมูเลือกใช้ผักบุ้งน้ำที่ก้านอวบ ๆ และใบเยอะ ๆ เพราะชอบกินใบนิ่ม ๆ ค่ะ
หรือใครจะใช้ผักบุ้งไทยก็อร่อยนะคะ (ผักบุ้งไทยสีจะเขียว
ๆ ม่วง ๆ แบบที่เรากินกับส้มตำค่ะ)
❖
กุ้งสด
อย่าลืมผ่าหลังเอาเส้นดำออกด้วยนะ ใครชอบหัวก็เอาไว้ แต่หมูขอกินง่าย ๆ
เอาออกทั้งหัวทั้งหาง กินกลางตลอดตัว..อย่างเดียวเลยค่ะ ^-^
❖ เนื้อปลา วันนี้หมูซื้อปลานิลจากรถกับข้าวในหมู่บ้านค่ะ เค้าบริการดี แล่เป็นชิ้นให้เรียบร้อย หมูแค่เอามาล้างเกลือดับคาวก็ใช้ได้แล้วค่ะ หรือใครจะใช้ปลาช่อนก็ได้นะคะ
อย่าเพิ่งท้อกับการทำแกงส้มกินเองนะ หมูบรรยายเยอะ เพื่อขยายความให้เพื่อน ๆ บางคนเข้าใจในการเลือกวัตถุดิบมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเหมือนของหมูเป๊ะนะคะ เพียงแต่วัตถุดิบที่เลือกใช้ จะให้ผลลัพธ์กับอาหารต่างกันค่ะ อย่าลืมนะคะว่า แกงส้ม ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ดีกับสุขภาพ โดยเฉพาะกระชาย มีสรรพคุณหลัก คือ ช่วยปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ อีกทั้งหอมแดงยังช่วยบรรเทาอาการหวัด และยังช่วยขับลมในลำไส้อีกด้วย นี่ยังไม่รวมผักซึ่งมีเส้นใย และโปรตีนที่ได้จากปลากับกุ้งอีกนะ เห็นมั้ยว่า “เราจะหยุดพุงย้วย และสวยไปด้วยกันจ้า”
วัตถุดิบน้ำพริกแกงส้ม
❖ พริกแห้ง 12 -15 เม็ด (หมูชอบเผ็ด จึงใส่เกินกว่าที่ระบุไว้ค่ะ)
*** กรณีที่ใช้พริกแห้งเม็ดใหญ่ ควรหั่นพริกเป็นชิ้น เคาะเม็ดพริกออก (ไม่ใช้เม็ดนะ) นำไปแช่น้ำให้นิ่ม แล้วเทน้ำทิ้ง เมื่อพริกมีความนิ่ม จะทำให้โขลกง่าย เบาแรงไปเยอะค่ะ ***
❖
หอมแดง
6 - 8 หัว ปอกเปลือก
ล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
❖
กระชาย
6 - 8 ราก ขูดผิวบาง ๆ
บริเวณที่มีเส้นที่เป็นรากออก ล้างน้ำสะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
❖
กะปิ
ประมาณ 1/2
ช้อนแกง
ถ้าไม่ชอบกลิ่นให้ลดลงค่ะ (ช้อนแกง หมายถึง
ช้อนสั้นที่ใช้ตักกับข้าว)
❖
ผักบุ้งน้ำกำใหญ่
1 กำ ถ้าเป็นกำเล็ก
ใช้ 2 กำค่ะ
❖
เนื้อปลานิล
1 ตัว
❖
กุ้งสด
12 -
15 ตัว
❖
น้ำมะขามเปียก
1/2 ถ้วย
❖
น้ำตาลปิ๊บ
2 - 3 ช้อนแกง
❖
น้ำปลา
2 ช้อนแกง
❖
เกลือป่น
1/2 ช้อนแกง (หมูใช้ดอกเกลือค่ะ)
❖
น้ำซุป
หรือน้ำเปล่า 4
ถ้วย
*** ปริมาณที่ระบุอาจจะมากหรือน้อยกว่าที่แจ้งไว้ ขึ้นอยู่กับภาชนะ และความชอบในรสชาติที่ต่างกัน ***
วิธีทำ
- ต้มปลาให้สุกก่อนค่ะ
ตั้งน้ำให้เดือดจัด ใส่เกลือ 1
หยิบมือ
ใส่เนื้อปลาลงไป ห้ามคน เมื่อปลาสุก ตักขึ้นพักไว้
- จัดการกับน้ำพริกแกงส้ม
จะโขลก หรือปั่นเลือกตามสบายเลยค่ะ หมูเริ่มจากโขลกกระชายพอหยาบตามด้วยหอมแดง
และพริิกแห้ง ปิดท้ายด้วยกะปิ ก็จะได้น้ำพริกแกงส้มพร้อมปรุง
- เพิ่มความข้น และฟูด้วยการนำเนื้อปลาที่พักไว้ มากโขลกให้เข้ากับน้ำพริกแกง
- ตั้งน้ำซุป
หรือน้ำเปล่า เมื่อเดือด ให้ตักออกมาประมาณ 2 ทัพพี
มาผสมกับน้ำพริกแกงให้แตกตัวไม่เป็นก้อน แล้วจึงนำทั้งหมดลงหม้อ
คราวนี้พริกแกงก็จะละลายง่ายขึ้น
- เมื่อน้ำแกงเดือด
ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา เกลือ ค่อย ๆ ปรุง และค่อย ๆ
ชิมนะคะ อย่าเทพรวดลงไปทั้งหมด ใจเย็น ๆ รสอ่อนเรายังแก้ไขได้
แต่ถ้าเข้มจัดเกินไป แก้ยากนะ
- หากได้รสชาติตามต้องการแล้ว
รอให้เดือดรอบนี้ก็ใส่ผักบุ้ง และกุ้งลงไป รอเดือดอีกทีก็ปิดเตาได้ค่ะ
ตอนนี้ จะปิดฝาหม้อ หรือเปิดก็ได้ค่ะ รอสักพักให้น้ำแกงซึมเข้าไปในผัก จะได้ชุ่มฉ่ำไม่กระด้าง แล้วค่อยตักใส่ชาม โชว์กุ้งด้านบนนิดนึง จะได้ล่อตาล่อใจผู้ไม่ชอบผัก
ติดตามผลงาน หรือทักทายกันได้ที่
Blog : 👉 คุณนายหมู กูรูบางเรื่อง
Instagram 👉 khunnaimoo_gurubangrueng
Facebook 👉 rose napassorn
Line ID : mooyokosung >> http://line.me/ti/p/RUAB56bvmw
E-mail : napassorn.cpd@gmail.com
————————
รูปภาพประกอบ ผู้เขียนถ่ายรูปเองทั้งหมด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น